ณัฐนินท์ธรรมวิทย์เมธีสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ (สะพานมอญ)
ณัฐนินท์ธรรมวิทย์เมธีก่อนที่จะมีการสร้างสะพานมอญ ชาวบ้านทั้งสองฝั่งแม่น้ำซองกาเลีย ใช้สะพานที่เรียกว่า "สะพานบาทเดียว" โดยใช้ไม้ไผ่ต่อเป็นแพ แล้วมีคนคอยลากให้มาเชื่อมต่อกันไปมา
โดยเก็บเงินข้ามฟากครั้งละ 1 บาท
ต่อมาหลวงพ่ออุตตมะได้ริเริ่มสร้างสะพานไม้นี้ขึ้น
เพื่อให้ชาวบ้านเดินทางข้ามแม่น้ำได้สะดวกโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
วิธีการสร้าง และขั้นตอนการสร้าง ไม่ได้ใช้เครื่องจักรใดๆ
ใช้เพียงอุปกรณ์พื้นบ้าน
และแรงงานชาวบ้านที่ศรัทธาต่อหลวงพ่อสมัครใจมาช่วยกันลำเลียงวัสดุ ผูกยึด
ตอไม้ เสา และกระดานไม้ สะพานไม้ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2529 - 2530
มีความยาวทั้งสิ้น 850 เมตร ข้ามแม่น้ำซองกาเลียระยะทางประมาณ 455 เมตร
วัสดุทั้งหมดล้วนทำด้วยไม้ ส่วนใหญ่จะใช้ไม้เนื้อแข็ง พวกไม้แดง
เพราะมีความทนทาน ไม้ที่ได้
ส่วนหนึ่งนำมาจากต้นไม้ที่ยืนต้นจมอยู่เหนือเขื่อน ราวสะพาน และพื้นสะพาน
ใช้ไม้กระดานที่ตัดเป็นท่อนๆ ขนาดหน้ากว้างไม่มาก นำมาต่อกัน
ตัวสะพานใช้เสา 60 ต้น ตรงช่วงกลาง เสาห่าง 10 ศอก
เพื่อให้เรือสัญจรไปมาได้ สะพานที่สร้างเสร็จเชื่อมต่อหมู่ 2 กับหมู่ 3
ของตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี
สะพานไม้นี้จึงมีความหมายกับคนมอญเป็นอย่างมาก
เพราะไม่ใช่แค่สะพานเชื่อมหมู่บ้านสองฝั่งแม่น้ำ
แต่เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงพลังศรัทธาที่มีต่อหลวงพ่ออุตตมะ
เป็นสะพานมิตรภาพ
ความสมานฉันท์ของผู้คนที่อยู่ร่วมกันทั้งชาวไทยและชาวมอญในสังขละบุรี
สะพานมอญได้รับการซ่อมแซมดูแลเพื่อให้มีความปลอดภัยตลอดมา
ครั้งล่าสุดได้รับการซ่อมแซมเป็นครั้งที่ 5 เมื่อ พ.ศ. 2554
และได้ติดเสาไฟรูปหงส์เพิ่มเติม ซึ่งหงส์ถือเป็นสัญลักษณ์ของมอญ
เหมือนกับรูปหงส์สีทองที่อยู่ในธงประจำชาติมอญ
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
เกิดมีมรสุมทำให้ฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี
จนเกิดน้ำป่าไหลหลากมาจากทุ่งใหญ่นเรศวร
พัดขยะและเศษไม้ลงสู่แม่น้ำซองกาเลีย ไหลมาตามลำน้ำ
แล้วปะทะกับเข้ากับสะพานมอญ จนทำให้สะพานพังไปประมาณ 30 - 70 เมตร
พระมหาสุชาติ สิริปัญโญ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม
ได้ดูแลให้ชาวบ้านหาไม้ไผ่มาคนละลำ ด้วยคำว่า "หนึ่งคน หนึ่งลำ"
เพื่อให้มาช่วยกันทำแพลูกบวบ
ซึ่งเป็นแพที่นำลำไม้ไผ่มามัดต่อกันเป็นแพบนบนผิวน้ำ
ใช้เป็นสะพานชั่วคราวแทนสะพานที่กำลังซ่อม
ซึ่งการซ่อมแซมสะพานมอญนี้ก็จะคงสภาพความเป็นสะพานไม้ไว้เหมือนเดิม
และใช้วิธีการตามวิถีชาวบ้าน ไม่ได้ใช้เครื่องจักรใดๆ
เพื่อรักษาคุณค่าของสะพานไม้ไว้ต่อไป
แพลูกบวบที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นเส้นทางชั่วคราว มีความกว้าง 6 เมตร
มีความยาวประมาณ 300 เมตร ตามความกว้างของลำน้ำ
ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้าน แพนี้สร้างขึ้นโดยใช้เวลาเพียง 6 วัน
และกลายเป็นจุดดึงดูดใจนักท่องเที่ยวเป็นอันมาก
เพราะทำให้หลายคนรู้สึกเหมือนได้เดินบนผิวน้ำแม่น้ำซองกาเลีย
บริเวณตอนกลางของแพลูกบวบจะทำเป็นสะพานไม้ยกสูงเพื่อให้เรือลอดผ่านไปได้
ซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่เรียบง่าย
และยังคงความเป็นบรรยากาศแบบธรรมชาติไว้ด้วยสะพานมอญ
มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สะพานอุตตมานุสรณ์
เป็นสะพานไม้ข้ามแม่น้ำซองกาเลียไปยังหมู่บ้านมอญ
ถือเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย
และเป็นอันดับสองของโลกรองจากสะพานไม้อูเบ็งในพม่า
และเป็นสัญลักษณ์ของอำเภอสังขละบุรี เป็นสะพานแห่งศรัทธา
ที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของชุมชนที่อาศัยอยู่ในสังขละบุรี
ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวมาสัมผัสธรรมชาติ พร้อมๆ
กับการได้เห็นวิถีชีวิตชุมชนชาวมอญในแถบนี้
สิ่งที่ห้ามพลาดอีกอย่างหนึ่งก็คือการได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
กับสะพานที่เสมือนเป็นสายใยวัฒนธรรมของชาวมอญและไทยในดินแดนสุดขอบประเทศแห่งนี้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น