ณัฐนินท์ธรรมวิทย์เมธีท่าปอมที่เที่ยวสุดอันซีน




  • ป่าพรุท่าปอม คลองสองน้ำ  ตั้งอยู่ที่บ้านหนองจิก หมู่ที่ 2 ตำบลเขาคราม ห่างจากตัวเมืองกระบี่ 34 กิโลเมตร ตามเส้นทางถนนหลวงหมายเลข 4 (กระบี่-อ่าวลึก) ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 126 เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 5 กิโลเมตร ป่าพรุท่าปอมเป็นป่าที่มีแหล่งน้ำสวยงามหลายแห่ง มีต้นกำเนิดจากแอ่งน้ำช่องพระแก้ว ซึ่งเป็นน้ำจืดใสสะอาดจนมองเห็นพื้นน้ำและรากไม้ป่าหลุมพี ไหลเอื่อย มาบรรจบกับป่าโกงกางสู่ทะเลซึ่งเป็นน้ำเค็ม จึงได้ชื่อว่าคลองสองน้ำ ภายในมีทางเดินศึกษาธรรมชาติ ทำด้วยไม้ระแนง บางช่วงมีเก้าอี้ไม้  ให้นักนิยมไพรผู้รักธรรมชาติได้นั่งพักชมทัศนียภาพสองข้างทาง ค่าธรรมเนียมสำหรับคนไทย ผู้ใหญ่ 10 บาท เด็ก 5 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 30 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลเขาคราม โทร. 075 694 165 , 075 694 198 

     

     

     

  • คลองท่าปอมหรือคลองสองน้ำ คลองแห่งนี้น้ำใสราวกระจก มองดูเป็นสีเขียวมรกต เนื่องจากมีสารละลายหินปูนหรือแคลเซียมคาร์บอร์เนตและกำมะถันปนอยู่มาก เป็นพื้นที่ซึ่งมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง ทั้งระบบนิเวศแบบป่าพรุน้ำจืด แบบพื้นที่ชุ่มน้ำ แบบป่าดิบ และแบบป่าชายเลน จึงเป็นที่อยู่อาศัยของทั้งปลาน้ำจืดและน้ำกร่อย

    ท่าปอม ดินแดนพิศวง เต็มไปด้วยเรื่องราวอาถรรพณ์ ตามความเชื่อของชาวบ้านหนองจิก ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ ท่าปอมตั้งชื่อตามท่านโต๊ะครูปอม ผู้มาตั้งถิ่นฐานที่นี่เป็นครอบครัวแรกเมื่อ 130 กว่าปีที่แล้ว แต่เพราะผืนป่าพรุรอบบริเวณนี้รกทึบ พื้นล่างเต็มไปด้วยรากไม้ พูพอน ยากแก่การเดิน ทั้งยังเชื่อกันว่าบริเวณต้นน้ำคลองท่าปอมใกล้กับสระน้ำกลางป่า มีจระเข้เผือก ซึ่งเป็นสัตว์ของเจ้าที่เจ้าป่าคอยปกปักรักษาไว้ หากใครล่วงละเมิด ฝ่าฝืนจะเกิดอาเพศ กระทั่งต้องมีอันเป็นไป และหากไม่จำเป็นจริงๆแล้ว ชาวหนองจิกจะห้ามลูกหลานว่าอย่าเข้าไปใกล้ แต่หากต้องไปตักน้ำจืดมาบริโภคในหน้าแล้ง หรือไปลงเรือหาปลา หาอาหารในที่แห่งนี้ ก็อย่าเอาอาหารที่มีเนื้อหมูเข้าไปใกล้ และหากจะลงอาบน้ำ ก็ต้องเว้นวันเสาร์และวันอังคาร แม้จะไม่มีใครอธิบายเหตุผลได้ว่าทำไม แต่ก็ดูเหมือนไม่มีใครอยากฝ่าฝืน จะมีก็แต่พวกวัยรุ่นบางกลุ่มเท่านั้น ที่หาญกล้าอาศัยความรกเรื้อของป่าพรุท่าปอมเป็นแหล่งมั่วสุม

    มอง ลงไปในน้ำใสจะเห็นฝูงปลาขนาดเล็กว่าย เวียนกันไปมา ปลาเหล่านี้ก็มีความเป็นสุดยอดของชีวิตที่สามารถจะปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวด ล้อมพิเศษเช่นนี้ได้ โดยเฉพาะในช่วงรอยต่อของน้ำขึ้นและน้ำลง ซึ่งน้ำในคลองสายเดียวกันที่เดียวกัน แต่บางช่วงเวลากลายเป็นน้ำจืดสนิท บางช่วงเวลาที่ไม่นานนักกลับกลายเป็นน้ำกร่อย น้ำเค็ม ทั้งปลาน้ำจืดในคลองลึกด้านบน กับปลาทะเลน้ำเค็มอย่างปลากระบอกและปลาอีกหลายชนิดที่ว่ายตามน้ำกร่อยเข้ามา ก็ต้องเลือกจัดสรรเวลาให้ดี หากมัวหลงระเริงว่ายเล่นจนเพลิน ปลาทะเลอาจจะต้องกลายเป็นปลาน้ำจืด ปลาน้ำจืดอาจจะต้องกลายเป็นปลาเค็มไปก็ได้

    สิ่ง ที่งดงามอย่างหนึ่งริมสายธารใสไหลเย็นของคลองท่าปอมก็คือ รากไม้ที่คดเคี้ยว แตกแขนงงดงาม เพราะไม้เหล่านี้ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่ในสภาพดินเลนดินชุ่มน้ำ ง่ายต่อการโค่นล้ม จึงต้องมีรากที่แผ่กว้างเป็นฐานยึดเกาะค้ำยัน รากไม้เหล่านี้ช่วยสร้างริมสองฝั่งคลองท่าปอมให้งดงามยิ่ง

    หาก สำรวจลึกทวนสายน้ำท่าปอมขึ้นไป ซึ่งบริเวณนี้เป็นเขตหวงห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวล่วงล้ำเข้าไป ราว 250 เมตร จะพบสระน้ำสีไพลินงดงามใสวาวอยู่ในท่ามกลางป่าเขียวขจี ชาวบ้านเรียกสระน้ำกลางป่าลึกนี้ว่า แอ่งท่าปอม หรือบางคนก็เรียกสระมรกต เป็นอ่างน้ำที่เกิดจากทางน้ำใต้ไหลพุขึ้นมา และหากเดินขึ้นไปอีกราว 500 เมตร ก็จะพบอ่างน้ำลักษณะเดียวกันอีกอ่างซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่า สระน้ำช่องพระแก้ว ซึ่งเป็นน้ำที่เกิดจากธารน้ำใต้ดินเช่นกัน สระน้ำทั้งสองมีเส้นทางไหลใต้ดินเชื่อมต่อถึงกัน ก่อนที่จะไหลออกมาเป็นสายธารคลองท่าปอมทั้งสาย ฉะนั้นน้ำในคลองท่าปอมจึงมีความเย็นและใสอยู่ตลอดเวลา

    แต่เดิมชาวบ้านถือเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ค่อยมีใครเข้าไปในพื้นที่ป่า จนมีชาวบ้านที่เก่งกล้าและมีอาคมเข้าไปบุกเบิกพื้นที่และทำไร่ทำสวน จากนั้นมีชาวบ้านเข้ามาอยู่อาศัยกันมากขึ้น แต่ด้วยความเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ จึงได้ช่วยกันดูแลปกปักรักษาป่าไว้ อบต. เขาครามโดยการสนับสนุนงบประมาณจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้จัดทำเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเป็นสะพานไม้ยกระดับ 2 เมตรจากพื้นดิน ทำเป็นวงรอบพื้นที่ป่า ระยะทาง 700 เมตร และจัดเจ้าหน้าที่ดูแล รากไม้คดเคี้ยว แตกแขนงแผ่กว้าง และปลาน้ำจืดปลาน้ำเค็ม ที่สลับกันมาว่ายเวียนหาอาหาร เป็นที่งดงามและหาดูได้ยาก หากเดินทวนกระแสน้ำท่าปอมขึ้นไป จนถึงเขตหวงห้าม จะพบสระน้ำสีไพลินกลางป่าเขียว เรียกว่าแอ่งท่าปอม หากเดินต่อไปอีก 500 เมตร จะพบแอ่งน้ำลักษณะเดียวกัน เรียกว่า สระน้ำช่องพระแก้ว สามารถเที่ยวชมคลองสองน้ำได้ตลอดทั้งปี ควรเที่ยวชมในเวลาที่น้ำลงน้ำจะสวยใสมาก

  • การเดินทาง
    • จากกรุงเทพฯ ลงใต้มุ่งสู่ จ.กระบี่ ทางหลวงหมายเลข 4 ต่อ 41 สุราษฎร์ธานี เลี้ยวขวา ทางหลวง หมายเลข 44 เลี้ยวซ้าย แถว อ. อ่าวลึก ถึง จ.กระบี่ เลียวขวาไป อ่าวพระนาง หาดนพรัตน์ธารา
    • จากตัวเมืองกระบี่ ใช้เส้นทางกระบี่ – อ่าวลึก ทางหลวงหมายเลข 4 เลี้ยวซ้ายกิโลเมตรที่127 แยกป้อมเขาคราม ไปประมาณ 5 กม. ตามป้ายบอกทาง ผ่านวัดหนองจิก จนถึงป่าพรุท่าปอมคลองสองน้ำ
    • ท่าปอมคลองสองน้ำ ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 2 บ้านหนองจิก ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ณัฐนินท์ ธรรมวิทย์เมธี : เขาช่องกระจกจังหวัดประจวบ

ณัฐนินท์ ธรรมวิทย์เมธี : ไปเที่ยว โบสถ์สีทอง วัดปากน้ำโจ้โล้ จ.ฉะเชิงเทรา

ณัฐนินท์ธรรมวิทย์เมธีแก่นมะกรูด ชวนเที่ยวหนาวสุดกลางสยาม ปิดทองหลังพระ